บันทึกการเรียนประจำวันที่ 6 มีนาคม 2558
บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
การสอนแบบโครงการ (Project Approach)
โครงการ คือ การสืบค้นข้อมูลอย่างลึกตามหัวเรื่องที่เด็กสนใจควรเเก่การเรียนรู้จุดประสงค์ของโครงการ คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อมากกว่าการเสาะเเสวงหาคำตอบที่ถูกต้อง
วิธีจัดการเรียนการสอนมี 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เด็กจะร่วมกันคิดเรื่องที่สนใจ
ระยะที่ 2 ระยะวางแผนโครงการ เป็นช่วงเวลาที่กำหนดจุดประสงค์ว่าต้องการเรียนรู้อะไร กำหนดขอบเขตเนื้อหา ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินโครงการตามที่กำหนดไว้ ที่เน้นระบวนการแก้ปัญหา จัดเป็นหัวใจของการสอนแบบโครงการ เพราะเด็กจะได้รับข้อมูลใหม่จากประสบการณ์ตรงหรือเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานเพราะเด็กได้สนทนา พูดคุยกับบุคคล และสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ ขณะเดียวกันเด็กสามารถค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลรอง (Secondary Sources) เช่น การดูวีดีทัศน์ การอ่านหนังสือ เป็นต้น
ระยะที่ 4 สรุปโครงการ ครูและเด็กร่วมวางแผนสรุปโครงการ เป็นขั้นตอนการประเมินโครงการ ทบทวนการปฏิบัติ และวางแผนโครงการใหม่ วิธีการสรุปโครงการอาจจะให้เด็กนำผลงานที่ได้รับมอบหมายมาแสดงต่อครูแล้วอภิปรายประเด็นปัญหา หรือให้เด็กนำเสนอผลงาน ในรูปของการจัดแสดง จัดเป็นนิทรรศการ หรือสาธิตผลงาน
ประโยชน์
· เด็กจะได้เ้ห็นคุณค่าในตัวเอง เป็นเเนวทางให้เด็กได้พึ่งตนเองได้
· เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างมีความสุข สนุกสนานเพราะเด็กได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองชอบ
· ส่งเสริมให้เด็กได้มีการทำงานอย่างมีเเบบแผน
· สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง
การสอนเเบบมอนเตสเซอรี
วิธีการจัดการเรียนการสอน
เน้นการเรียนรู้ตามลำดับขั้น ไม่ต้องการให้เด็กลองผิดลองถูก สร้างสมาธิ ความมั่นใจ ครูสามารถวินิจฉัยและแก้ปัญหาการเรียนรู้ของเด็กได้ โดยสาธิตและฝึกให้เด็กเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตนเอง
การเตรียม = ครูเตรียมอุปกรณ์การศึกษาเด็กสามารถเข้าเรียนแบบคละอายุได้
การเตรียม = ครูเตรียมอุปกรณ์การศึกษาเด็กสามารถเข้าเรียนแบบคละอายุได้
การดำเนินการ = ขั้นนำ เด็กเลือกอุปกรณ์การศึกษาตามความสนใจ ,ขั้นสอน
ครูสาธิตให้เด็กดู
ครูสาธิตให้เด็กดู
ขั้นนสรุป ครูให้เด็กเก็บอุปกรณ์ ครูบันทึกความรู้ ครูบันทึกรายการอุปกรณ์
ประโยชน์
· มีพัฒนาการทุกด้านเต็มตามศักยภาพ
· มีระเบียบวินัย
·มีสมาธิในการทำงานรักความสงบ
· ควบคุมตนเองและพึ่งพาตนเองได้
· ทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น
· รู้สิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น
· มีมารยาทตามวัฒนธรรมที่ตนอาศัยอยู่
· รักอิสระและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
· รักสิ่งแวดล้อม
วิชาวิทยาศาสตร์(Science)
การสอนเเบบสมองเป็นฐาน
· มีระเบียบวินัย
·มีสมาธิในการทำงานรักความสงบ
· ควบคุมตนเองและพึ่งพาตนเองได้
· ทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น
· รู้สิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น
· มีมารยาทตามวัฒนธรรมที่ตนอาศัยอยู่
· รักอิสระและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
· รักสิ่งแวดล้อม
การสอนเเบบ STEM
STEM คือการเรียนรู้
วิชาวิทยาศาสตร์(Science)
เทคโนโลยี (Technology)
วิศวกรรมศาสตร์(Engineering)
คณิตศาสตร์ (Mathematics)
ซึ่งล้วนเป็นวิชาที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีความรู้ความสามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความเป็นโลกาภิวัฒน์ ตั้งอยู่บนฐานความรู้และเต็มไปด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งวิชาทั้งสี่เป็นวิชาทีมีความสำคัญอย่างมากกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และ ความมั่นคงของประเทศ
BBL (Brain-based Learning) คือการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย เป็นการนำองค์ความรู้เรื่องสมองมาใช้เป็นฐานในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้
ทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน 12 ข้อ ดังต่อไปนี้
1)สมองเป็นกระบวนการคู่ขนาน
2)สมองกับการเรียนรู้
3)การเรียนรู้มีมาแต่กำเนิด
4)รูปแบบการเรียนรู้ของบุคคล
5) ความสนใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้
6)สมองมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้
7)การเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจสามารถรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8)การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทั้งแบบที่มีจุดมุ่งหมายและไม่ได้ตั้งใจ
9)การเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการสร้างความเข้าใจ
10)การเรียนรู้เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
11)ส่งเสริมให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
12)สมองของบุคคลมีความเท่าเทียมกัน
กิจกรรมในห้องเรียน
เกณฑ์การแบ่งกลุ่ม
1 - 5 กลุ่มสตอเบอรี่
6 - 10 กลุ่มเชอรี่
11 - 15 กลุ่มแอปเปิล
15 - 20 กลุ่มลิ้นจี่
21 - 25 กลุ่มมะม่วง
วิธีดำเนินการ
นำป้ายชื่อมาติด>>พิจารณาเกณฑ์การแบ่ง>>เลือกกลุ่ม>>นับจำนวนคนทั้งหมดที่มาเรียน>>นับจำนวนป้ายทั้งหมด>> นำเสนอด้วยภาพและสัญลักษณ์
ประเมินสภาพห้องเรียน
- บรรยากาศเย็นสบายเอื้ออำนวยต่อการเรียน อุปกรณ์ในการสอนสะดวกพร้อมใช้งาน
ประเมินตนเอง
- มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมในห้องเรียน มีการคิด วิคราะห์อยู่ตลอดเวลา
ประเมินเพื่อน
- เพื่อนมีการคุยกันเสียงดังบ้าง ไม่ตั้งใจฟังอาจารย์สอน เข้าเรียนสาย
ประเมินอาจารย์
- เข้าสอนตรงเวลา มีกิจกรรมใหม่ๆมาให้ทำตลอด ไม่ว่าจะเป็นการต่อรูปทรงการแต่งเพลงร่วมกันในห้องเรียน ทำให้ในการเรียนไม่น่าเบื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น